02-056-3333
การบริการสำหรับผู้ป่วย> แพ็กเกจและโปรโมชั่น> Total Vision Care / แพ็กเกจตรวจสุขภาพดวงตาแบบครบวงจร

Total Vision Care / แพ็กเกจตรวจสุขภาพดวงตาแบบครบวงจร


 
ใครบ้างควรตรวจสุขภาพตา

คนส่วนใหญ่มักจะตรวจสุขภาพตา เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับดวงตา แต่ความจริงแล้วการตรวจสุขภาพตา สามารถทำได้ทุกวัย และควรทำแม้ตายังมีความปกติดี เพราะโรคตาบางโรคจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะถึงขั้นที่รุนแรงมากแล้ว เช่น ต้อหิน จอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นตา ซึ่งโรคเหล่านี้มักจะไม่แสดงอาการในระยะเริ่มแรก แต่จะแสดงอาการในระยะที่โรคลุกลามรุนแรงแล้ว เราจึงควรตรวจสุขภาพตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจหาความเสี่ยงของโรคตา และช่วยให้รักษาได้ทันท่วงที

 
แพ็กเกจนี้เหมาะกับใคร

- ผู้สูงอายุ เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเป็นโรคตามากขึ้น เช่น  โรคต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม ต้อหิน ฯลฯ
- ผู้ที่มีอาการสายตามัวลง
- ผู้ที่ใช้สายตาเยอะ หรือทำงานกลางแดดนานๆ
- ผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีคนในครอบครัวเป็นโรคต้อหิน และโรคทางจอประสาทตา เช่น จอประสาทตาเสื่อม เบาหวานขึ้นตา ฯลฯ



รายการในการตรวจ

1. ตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์ชนิดพิเศษ (Slit Lamp) โดยจักษุแพทย์
2. วัดระยะการมองเห็น (Visual Acuity)
3. วัดความดันลูกตาด้วยเครื่อง iCare
4. วัดสายตาและความโค้งกระจกตาด้วยเครื่องระบบอัตโนมัติ Auto Ref-Keratometer
5. วัดสายตาอย่างละเอียดโดยนักทัศนมาตรผู้ชำนาญการด้านการตรวจวัดสายตา (Manifest Refraction)
6. ตรวจนับเซลล์กระจกตาและความหนากระจกตา (Central Corneal Thickness and Endothelium Cell Count)
7. ตรวจตาบอดสี (Color Vision Test)

8. ตรวจวัดลานสายตา (CTVF)
9. หยอดยาขยายม่านตา (Dilate)
10. ตรวจขั้วประสาทตาเพื่อค้นหาความเสี่ยงในภาวะต้อหิน OCT RNFL
11. ตรวจความหนาของชั้นจอประสาทตา OCT Macula


ขั้นตอนการตรวจ

1. ซักประวัติเพื่อคัดกรองเบื้องต้น

2. ตรวจโดยเจ้าหน้าที่วัดระยะการมองเห็น
- วัดระยะการมองเห็น (Visual Acuity) เป็นการตรวจความสามารถในการมองเห็นเบื้องต้นก่อนพบจักษุแพทย์
- วัดความดันลูกตา
ด้วยเครื่อง iCare เพื่อประเมินค่าความดัน ที่เกิดจากสมดุลของการสร้างของเหลวภายในลูกตาและการระบายของเหลวภายในลูกตา ซึ่งมีประโยชน์ในการประเมินความเสี่ยงของโรคต้อหิน
วัดสายตาและความโค้งกระจกตาด้วยเครื่องระบบอัตโนมัติ Auto Ref-Keratometer

3. ตรวจโดยผู้ชำนาญการด้านการวัดสายตา
- การวัดสายตาอย่างละเอียด (Manifest Refraction)


4. ตรวจโดยพยาบาลแผนกหัตถการ
ตรวจตาบอดสี (Color Vision Test)

5. ตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ
- ตรวจนับเซลล์กระจกตาและความหนากระจกตา (Central Corneal Thickness and Endothelium Cell Count)
- วัดลานสายตา (CTVF)
- ตรวจขั้วประสาทตาเพื่อค้นหาความเสี่ยงในภาวะต้อหิน OCT RNFL
- ตรวจความหนาของชั้นจอประสาทตา OCT Macula


6. ขั้นตอนการตรวจกับจักษุแพทย์
- ตรวจตาด้วยเครื่อง Slit Lamp  
หยอดยาขยายม่านตา (Dilate)

การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพตา

1. งดใส่คอนแทคเลนส์
ผู้ที่จะตรวจสุขภาพตา ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนตรวจ ดังนี้

- ผู้ที่ใส่ คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Lens) ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ก่อนตรวจ
- ผู้ที่ใส่ คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard  Lens) หรือ คอนแทคเลนส์ชนิดกึ่งแข็งกึ่งนิ่ม (Semi Hard  Lens)  ควรงดใส่คอนแทคเลนส์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนตรวจ

2. ไม่ควรขับรถมาเอง เนื่องจากจักษุแพทย์อาจสั่งให้ทำการหยอดยาขยายรูม่านตา เพื่อช่วยให้จักษุแพทย์สามารถดูรายละเอียดของจอประสาทตา โดยจะทำการหยอดยา 3 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อของม่านตาหดตัวเข้าไปทางเยื่อบุตาขาวทำให้รูม่านตาขยายกว้างมากขึ้นกว่าปกติ ทำให้แสงเข้าที่รูม่านตามากกว่าปกติ ผู้ป่วยจะเห็นแสงสว่างจ้ามากประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง อาจทำให้รู้สึกมึนศีรษะได้และมองเห็นไม่ชัดเจน จึงควรงดเว้นการขับรถและควรมีญาติค่อยดูแลอย่างใกล้ชิด

3. หากท่านสวมแว่นตา มียาหยอดตาหรือยาที่ใช้ประจำ กรุณานำติดตัวมาด้วย

เงื่อนไขการให้บริการ

1. กรุณาติดต่อทำนัดที่ Call Center 02-056-3333 กด 1
2. แพ็กเกจนี้ไม่รวมค่าใช้จ่าย กรณีที่จักษุแพทย์ตรวจพบสิ่งผิดปกติและต้องตรวจเพิ่มเติม นอกเหนือจากรายการในแพ็กเกจนี้
3. ราคาพิเศษนี้สำหรับคนสัญชาติไทยเท่านั้น
4. โรงพยาบาลฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า

ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2568