02-056-3333
ศูนย์รักษาโรค> รอบรู้เรื่องตา

Computer Vision Syndrome (นพ.สรรพัฒน์ รัตนิน)

การดูแลสุขภาพดวงตาในท่านที่ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ

ส่วนมากมักจะมีปัญหา เช่น การใช้สายตาอ่านหนังสือ หรือใช้งานอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ หรือแท๊บเล็กต่อเนื่องกันเป็นเวลาสัก 2-3 ชั่วโมง อาจมีอาการปวดตา บางครั้งอาจมีอาการตามัวร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Computer Vision Syndrome เป็นอาการที่เกิดชึ้นกับผู้ที่ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ จะเป็นแบบนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกิดได้มากถึง 75% เลยทีเดียว แต่เมื่อท่านหยุดพักสายตาสักครู่อาการก็จะหายไป แล้วกลับมาเป็นอีก นพ.สรรพัฒน์ รัตนิน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ถึงวิธีการใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงอาการสายตาล้า สายตาเพลีย ไว้ดังนี้ การที่เรารู้สึกไม่สบายตาเท่าไหร่ ตอนที่ใช้คอมพิวเตอร์นาน ๆ

เกิดจากองค์ประกอบ 3 อย่างที่ค่อนข้างจะใหญ่ที่สุดในตอนนี้ นั่นก็คือ 

1. เรากำลังใช้สายตาใกล้ ๆ การใช้สายตาใกล้ๆ ทำให้ตาของเราต้องโฟกัสให้ภาพที่ใกล้ชัดขึ้นมา จึงต้องใช้กล้ามเนื้อ
    ในตา ถ้าเราใช้ตรงนี้นานๆก็อาจจะเกิดอาการเมื่อย หรือเมื่อยกระบอกตา หรือเมื่อยตาได้ 
2. เรื่องของแสงจากคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะผู้ที่เปิดคอมพิวเตอร์และเปิดไฟหรี่ๆในห้อง ทำให้แสงสว่างไม่เพียงพอ
    และแสงที่สว่างมากจากจอคอมพิวเตอร์ จึงเป็นสาเหตุ ทำให้รู้สึกว่าเมื่อยตา ทำให้เรารู้สึกเกร็งดวงตา 
3. เกิดจากที่ตาแห้ง ผิวตาของเราที่สบายอยู่ได้ตลอดเวลา เกิดขึ้นจากการที่เรามีต่อมน้ำตาเข้ามาเคลือบตาของเรา
    ทีละนิด ทีละนิด ทุกๆวินาที แต่การที่เราใช้สายตาทำงานอย่างตั้งใจจดจ่อ หรือการจ้องอะไรนาน การกะพริบตา
    จากทุก ๆ 5-10 วินาที หรืออาจจะน้อยกว่านั้น เพราะเรามัวแต่ตั้งใจจดจ่อ ทำให้น้ำตาที่เคลือบอยู่บนกระจกตาของ      เราก็อาจจะระเหยไป ทำให้เกิดอาการตาแห้ง

การที่จะดูแลตรงนี้ให้อาการเหล่านี้น้อยลงไป

ก็อาจจะเป็นการที่เวลาเราทำงานไปสัก 15-20 นาที อาจจะพักสายตาบ้างเล็กน้อย อาจจะหลับตาสักครู่นึง หรือจ้องโฟกัสออกไปไกลๆมองออกไปไกลๆ ปรับระยะภาพบ้าง ทำให้กล้ามเนื้อตาผ่อนคลาย อาการตาแห้ง อาการตาล้า หรือสายตาเพลีย ที่เกิดขึ้น ในองค์ประกอบที่ 3 นี่คือ จากจอคอมพิวเตอร์ จอโทรศัพท์มือถือ หรือ จอแท็บเล็ตของเรา แนะนำว่า
1. แสงควรจะไม่จ้าจนเกินไป ปรับแสงให้อยู่ในระดับที่เรารู้สึกว่าสบายตา
2. การปรับจอก็ควรให้ห่างจากเราอย่างน้อยสัก 20-30 นิ้ว เราจะได้ไม่ต้องเกร็ง สายตาโฟกัสกับจอจนใกล้จนเกินไป
3. หากมีอาการแสบเคืองตา ตามัว หรือน้ำตาไหล แนะนำให้มาพบจักษุแพทย์ เพราะอาจมีอาการของโรคตาแห้ง
    ซึ่งในระยะยาวอาจส่งผลต่อสุขภาพของกระจกตา

ในปัจจุบันโรงพยาบาลจักษุ รัตนิน มีเทคโนโลยีและวิวัฒนาการในการรักษาโรคตาแห้ง เพราะการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยที่จะไม่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จักษุแพทย์ขอแนะนำให้มาตรวจสุขภาพดวงตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

บทความโดย : นพ. สรรพัฒน์ รัตนิน