02-056-3333
ศูนย์รักษาโรค> รอบรู้เรื่องตา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต้อหินและการรักษา

โรคต้อหิน คือภาวะที่ขั้วประสาทตาถูกทำลายโดยส่วนใหญ่เกิดจากความดันภายในลูกตาที่สูงขึ้น ซึ่งความดันนี้เกิดจากช่องระบายน้ำภายในตาแคบลง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติจนทำให้เกิดความดันตาเพิ่มสูงขึ้น โรคต้อหินสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ต้อหินมุมเปิด และต้อหินมุมปิด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับต้อหิน

โรคต้อหินคืออะไร?

โรคต้อหิน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทตา ซึ่งทำหน้าที่ส่งสัญญาณภาพจากตาไปยังสมอง ความเสียหายนี้มักเกิดจากความดันภายในลูกตาที่สูงผิดปกติ โรคต้อหินสามารถทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

ต้อหินเกิดจากอะไร?

ต้อหินเกิดจากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักคือการที่ความดันภายในลูกตาสูงขึ้น ซึ่งเกิดจากการที่ช่องระบายน้ำภายในลูกตาไม่สามารถระบายออกได้ตามปกติ นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่:

  • อายุที่มากขึ้น (โดยเฉพาะอายุเกิน 60 ปี)
  • ประวัติครอบครัวเป็นโรคต้อหิน
  • เป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง
  • สายตาสั้นมาก
  • การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน

ต้อหิน อาการเริ่มต้นมีอะไรบ้าง?

ต้อหิน อาการเริ่มต้น อาจไม่ปรากฏชัดเจนในระยะแรก ผู้ป่วยมักไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของการมองเห็นในทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นรอบข้าง (Peripheral vision) เริ่มลดลง

ต้อหินรักษาได้หรือไม่?

แม้ว่าจะไม่สามารถทำให้เส้นประสาทตาที่เสียหายไปแล้วกลับมาเป็นปกติได้ วิธีการรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของต้อหินและระดับความรุนแรง โดยอาจใช้ยาหยอดตาเพื่อควบคุมความดันในลูกตา การทำเลเซอร์เพื่อเปิดช่องระบายของน้ำในลูกตา หรือในกรณีที่รุนแรง อาจต้องทำการผ่าตัด

การรักษาต้อหินมีวิธีใดบ้าง?

โรคต้อหินรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค ได้แก่:

  • การใช้ยาหยอดตาเพื่อลดความดันในลูกตา
  • การรักษาด้วยเลเซอร์
  • การผ่าตัด

ต้อหินสามารถป้องกันได้หรือไม่?

แม้ว่าจะไม่สามารถป้องกันต้อหินได้อย่างสมบูรณ์ แต่มีวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงได้ เช่น:

  • ตรวจตาเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุเกิน 40 ปี
  • ควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง

ต้อหินมีความเกี่ยวข้องกับต้อกระจกหรือไม่?

ต้อหินและต้อกระจกเป็นโรคตาคนละชนิดกันแต่อาจพบร่วมกันได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ในบางกรณี ดังนั้นผู้ป่วยที่มีทั้งสองโรคควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากจักษุแพทย์

ผู้ป่วยต้อหินควรปฏิบัติตัวอย่างไร?

ผู้ป่วยต้อหินควรปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งรวมถึง:

  • ใช้ยาตามที่จักษุแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ
  • มาพบจักษุแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
  • แจ้งจักษุแพทย์หากมีอาการผิดปกติหรือผลข้างเคียงจากยา
  • ระมัดระวังในการทำกิจกรรมที่อาจกระทบกระเทือนตา

วิธีดูแลและการป้องกันต้อหิน

การดูแลและป้องกันต้อหินที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำกับจักษุแพทย์เฉพาะทาง 
ซึ่งโรงพยาบาลจักษุ รัตนิน มีทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางด้านโรคต้อหิน พร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยในการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคต้อหินอย่างครบวงจร การตรวจสุขภาพตาประจำปีจะช่วยให้จักษุแพทย์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ซึ่งจะช่วยป้องกันการสูญเสียการมองเห็นที่อาจเกิดขึ้นจากโรคต้อหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โรคต้อหิน เป็นปัญหาทางสายตาที่สามารถส่งผลกระทบต่อการมองเห็นอย่างถาวรหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง การรู้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโรคและการป้องกันสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ ดังนั้น การเข้ารับการตรวจตาเป็นประจำและปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงหรือมีอาการที่น่าสงสัย