02-056-3333
ศูนย์รักษาโรค> รอบรู้เรื่องตา

โรคตาแดง (นพ.นพรัตน์ สุจริตจันทร์)

ช่วงฤดูฝนนอกจากเรื่องน้ำท่วม ฝนตก รถติดแล้ว โรคภัยก็มักจะระบาดมาพร้อมกับฝนด้วย อย่างเช่น โรคตาแดง

ที่มีการระบาดทุกๆหน้าฝนจนทางกระทรวงสาธารณสุข ต้องออกมาประกาศเตือนให้ระวังกับโรคนี้ นอกจากนั้นยังเคยมีกรณีของดาราสาวที่ติดเชื้อไวรัสตาแดงอย่างรุนแรง จะมาจากสาเหตุใดนั้น นพ. นพรัตน์ สุจริตจันทร์ ได้แบ่งปันข้อมูลสุขภาพไว้ว่า
 
เรื่องของตาแดง นับเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายๆคนบางครั้งอาจจะชะล่าใจ ในการที่จะไม่ระวังรักษา โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่มีข่าวเรื่องของดาราท่านหนึ่ง ที่เกิดเป็นโรคตาแดงขึ้นมา แต่ว่าสาเหตุและอาการค่อนข้างรุนแรง นอกจากอาการตาแดงแล้วยังมีเลือดออกจากตา จนทำให้ผู้ที่ทราบข่าวเกิดความกลัวและความกังวลว่า ตาแดงที่เราเป็น ลูกหลานเราเคยเป็น ตอนนี้มีอาการได้มากอย่างนี้
 
โรคตาแดงที่เกิดขึ้นกับดาราสาวท่านนั้นเป็นโรคเป็นโรคตาแดงชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Acute Hemorrhagic Conjunctivis ซึ่งแปลตรงตัวว่า เฉียบพลัน มีเลือดออกและเยื่อบุตาอักเสบ ก็เยื่อบุตาอักเสบเฉียบพลันมาเลือดออก มีรายงานแรกในโลกประมาณปี 1969 ที่ประเทศกาน่า หลังจากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วโลก ที่จริงในเมืองไทยเป็นโรคตาแดงกันทั้งปี คำว่าตาแดงในที่นี้หมายถึงว่า มีไวรัสชนิดหนึ่ง มี 3 ตัว ที่เป็นสาเหตุ เรียกว่า อะดิโนไวรัส (Adenovirus), เอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) และ ค็อกแซกกีไวรัส (Coxsackievirus) ไวรัส 3 ตัวนี้จะสลับกันมา ทำให้คนไทยเป็นตาแดงทั้งปี
 
เนื่องจากสภาพภูมิอากาศเมืองไทยค่อนข้างจะชื้นจึงทำให้คนเป็นโรคตาแดง หรือเกิดจากสุขภาพพลานามัยไม่ค่อยดี ทำให้ตาแดงเป็นประจำ ใน 1 ปี จะมีช่วงที่มีอาการมาก คือช่วงหน้าฝนกับหน้าหนาว ในไวรัส 3 กลุ่มที่กล่าวมา ทำให้เกิดโรคคล้ายๆกันหมด ในสมัยก่อนมีตัวอะดิโนไวรัสตัวแรก มาระยะหลังตัวหลังๆก็กลายพันธุ์มา ทำให้เกิดอีก 2 ตัวเพิ่มขึ้นมาด้วย
 
ในกรณีของดาราท่านนั้นมีคล้ายๆเลือดออกมาด้วยคือเกิดจากเชื้อ หมายความว่าเชื้อบาง strain มันมีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์ก็ไม่ทำให้เลือดออก บางสายพันธุ์ก็ทำให้เลือดออก ชนิดที่เลือดออกก็จะมีอาการเคืองตา 2-3 วันแรก แล้วก็ตาแดง แล้วก็มีเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว กรณีที่เป็นมากเลือดออกทั้งที่ตาขาว แล้วก็ด้านหลังของหลังตาด้วย แล้วก็ทะลุไปที่หนังตาด้วย ซึ่งคนที่เป็นขนาดนั้นค่อนข้างจะน้อย นอกจากนั้นอาการยังมีเชื้อไวรัส ที่ชอบเยื่อบุ เยื่อบุตา เยื่อบุจมูก หรือลำไส้ด้วย
 

คนที่มีอาการตาแดงจริง ๆ แล้วสามารถทำให้ตาบอดได้หรือไม่

ตาแดงไม่ได้ทำให้ตาบอด ถ้ารักษาทันท่วงที เมื่อทราบว่ามีอาการแล้วควรต้องรีบไปพบจักษุแพทย์ จริงๆแล้วโรคตาแดงหากเป็นไม่มากก็สามารถหายได้เอง สมมุติว่าเป็นน้อย ไปติดเชื้อมา จะใช้เวลาประมาณ 2-10 วัน เชื้อถึงจะกลายเป็นเชื้อโรค เมื่อไปติดมาแล้วเกิดการป้ายไปมา ก็จะฟักตัวเป็นเชื้อโรค ทั่วๆไปถ้าเป็นน้อยประมาณ 7 วันก็หายเอง จะมีอาการตาแดง น้ำตาไหล คันๆแสบๆ เท่านั้น แต่หากเป็นมากขึ้นก็จะมีเลือดออกที่ตาขาว ในคนไข้บางคนลามไปถึงมีอาการทางจมูก ทางลำไส้ มีไข้ เป็นอยู่ใน spectrum ของมัน แล้วก็ร้ายตอนที่เข้ากระจกตา ทำให้กระจกตาถลอก หากกระจกตาถลอกแล้วไม่มีเชื้อโรคตัวอื่นเข้าไปผสมก็หายเองไม่เป็นไร แต่ว่ามีอาการเจ็บปวด รำคาญ น้ำตาไหลมาก ต้องไปพบจักษุแพทย์เพื่อจะช่วยรักษาลดอาการพวกนี้
 

หากเกิดเป็นตาแดง อันดับแรกต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

1. การรักษาความสะอาด การแพร่เชื้อเกิดขึ้นที่เราเอามือไปโดนน้ำตาเรา แล้วไปป้ายตามทุกที่ ทำให้การแพร่กระจายเชื้อเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อมือไปโดนน้ำตาแล้วควรไปล้างมือทุกครั้ง
2. เอาน้ำเย็นประคบ น้ำเย็นจะทำให้ตาสบายไม่ระคายเคือง แต่ห้ามไปทำ 2 ข้าง เพราะหากว่าตาอีกข้างหนึ่งยังดีอยู่ ให้ทำข้างเดียว อาจจะลามไปติดอีกข้างหนึ่งได้ หากอาการไม่มากก็หายเองไม่ต้องไปหาจักษุแพทย์
3. หากมีอาการเคืองตามาก น้ำตาไหลมาก ตามัว2 อันนี้ต้องไปหาจักษุแพทย์

การใช้เครื่องสำอางค์ตาร่วมกันกับผู้อื่นอาจเป็นสาเหตุของตาแดง

การติดต่อเกิดจาก 90% เกิดจากมือเรา มือตัวเองไปป้ายอะไรที่มีเชื้อโรคมา อีกประมาณสัก 5% เกิดจากแมลงหวี่ แมลงวันที่ตอมคนที่มีอาการตาแดงแล้วมาตอมเรา หรืออาจจะเกิดจากไปว่ายน้ำในคลองที่มีเชื้อโรค แต่ 90% มาจากมือเรา เพราฉะนั้นถ้าไม่อยากเป็นตาแดง ต้องล้างมือบ่อยๆ แล้วห้ามเอามือไปโดนตาโดยไม่ล้างมือ ในกรณีเครื่องสำอางค์ ถ้าสมมุติว่าใช้เครื่องสำอางค์ของคนที่มีอาการตาแดง แล้ววมาป้ายที่ตาเราก็สามารถติดได้ อะไรก็ได้ที่สามารถเป็นพาหะ
 

เมื่อเป็นตาแดงข้างหนึ่ง ต้องระวังอย่าให้ไปติดอีกข้างหนึ่ง ควรต้องระวังอย่างไร

มือเราเป็นพาหะในการทำให้ติดเชื้อได้มากที่สุด เช่นช่วงที่นอนหลับ เวลาหลับ นอนตะแคงแล้วน้ำตาไหลไปโดน หรือขยี้ตา เพาะบางครั้งช่วงหลับเราจะไม่รู้สึกตัว เราจะไม่รู้ตัว คือขยี้ตาข้างหนึ่งเสร็จ พอสักพักก็มาขยี้ตาอีกข้างนึง ก็ทำให้ติดโรคตาแดงมาได้
 โรคตาแดงส่วนมากจะระคายเคือง ตาขาวเป็นสีแดง และมีขี้ตา โดยเฉพาะช่วงที่ตื่นเช้ามาขี้ตาจะค่อนข้างจะกรัง ถ้าไม่มีขี้ตาก็ไม่น่าจะใช่ตาแดง หมายความว่าตาแดงชนิดติดเชื้อ แต่ว่าตาก็แดงเหมือนกัน แต่ว่าไม่มีขี้ตา
 

หากเป็นตาแดงแล้วว่ายน้ำในสระรวม มีโอกาสที่จะแพร่เชื้อได้หรือไม่

มีโอกาสแพร่เชื้อได้ แต่หากสระว่ายน้ำมีการใส่คลอรีนในปริมาณที่เพียงพอ ไวรัสก็ตาย ไวรัสพวกนี้ค่อนข้างจะทนทาน สมมุติว่าอยู่ที่แห้งจะอยู่ได้หลายวัน อย่างบนพื้นผิว เช่น บนโต๊ะที่แห้งๆสามารถอยู่ได้หลายวัน
 

กรณีตาแดงระบาดในเด็ก

เมื่อเด็กๆไปโรงเรียนแล้วเกิดการระบาดของโรคตาแดง ไม่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของเด็กว่ามีมากหรือน้อย จะเป็นที่วิธีเล่นของเด็กธรรมชาติของเด็กเมื่อเล่นเสร็จแล้วก็จับอะไรแล้วก็มาเช็ดตาตัวเอง โดยไม่ได้ระวัง ในผู้ใหญ่ไม่ค่อยทำเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเด็กก็จะติดกันง่ายในโรงเรียน เพราะว่ามือป้ายตา รวมทั้งของทุกชนิด ช้อน ปากกา ดินสอทุกชนิดที่จับด้วยมือ ในส่วนของเครื่องสำอางค์จักษุแพทย์ไม่แนะนำให้ใช้ร่วมกัน โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่เขียนตา
 

การใส่แว่นตาสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อตาแดงแพร่ไปยังผู้อื่นได้หรือไม่

อยู่ที่มือของเราเท่านั้น ในส่วนของแว่นตาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
 

การปิดตาข้างที่เป็นไว้ข้างหนึ่งสามารถช่วยลดการแพร่เชื้อหรือไม่

การปิดตาจะทำให้ไม่สบายตา เพราะว่าขี้ตาเยอะ ทำให้เกิดความชื้น มันจะชื้นมากขึ้น จะให้เกิดอาการไม่สบายตา
แนะนำให้คนไข้หยุดอยู่บ้าน ถ้ามีอาการตาแดงประมาณ 5-7 วัน หรือ 1 อาทิตย์
 

อันตรายจากการการซื้อยาหยอดตามาหยอดเอง

ยาปฏิชีวนะไม่ได้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัส แต่ช่วยกันไม่ให้เชื้อโรคพวกแบคทีเรียซึ่งจะมาแทรกซ้อนไว้เท่านั้น เพราะฉะนั้นหากเราไปตามร้านขายยาทั่วไป ก็น่าจะมียาพวกนี้ขาย แต่ในฐานะจักษุแพทย์ก็ไม่แนะนำ เพราะว่าก็ไม่ทราบว่าเขาเอายาอะไรมาให้ คือแนะนำให้มาพบจักษุแพทย์ดีกว่า
 
บทความโดย : นพ. นพรัตน์ สุจริตจันทร์